ช่วงนี้เป็นช่วงถือศีลกินเจ ไอ่เราก็นึกแต่ว่ากินเจก็คือไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่กินผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากสัตว์ใดๆทั้งสิ้น แต่ก็ลืมนึกไปว่า ต้องถือศีลด้วยนิหว่า.. วันแรกก็ผิดไปแล้วหลายข้อ เมื่อวานก็เพิ่งฆ่าตะขาบในห้องนอน ยืนแน่นิ่งอยู่หน้าประตูไม่แน่ใจว่าเราเหยียบไปก่อนหรือเปล่า น่ากลัว.. แต่เรื่องอย่างงี้จะถือเคร่งขนาดไหนก็ต้องฆ่าแหละ มันโคตรจะอันตรายเลย เราไม่ฆ่ามัน มันก็ฆ่าเรา ไหนจะแมลงสาบนอกบ้าน ไหนจะตัวต่ออีก.. ทำไมช่วงที่เราถือศีลมันต้องออกมาให้เราเห็นบ่อยจัง.. หรือว่านี่จะเป็นบททดสอบของเราหว่า ยอมพลีชีพเพื่อทดสอบศีลของเรา.. แต่ก็นะ มันก็ต้องมี criteria บ้างล่ะ ว่าอะไรควรอยู่อะไรควรตาย!! ดังนั้น.. รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี.. สัพเพสัตตา.. _/|\_
ส่วนเรื่องกินเจไม่เป็นเรื่องหนักใจเลย เพราะอาหารที่เรากินอยู่ทุกวันและที่ชอบๆ พวกผัก เต้าหู งา ก็แทบจะเจอยู่แล้วก็เลยสบายใจจอร์จ จะว่าไปแล้วเราก็กินมาประจำอยู่แล้วแหละ พอดีที่บ้านกินก็เลยกินไปด้วยเลย ไม่อยากแยกจานช้อนส้อม ตอนกินต้องมีช้อนกลางอีกต่างหาก ลำบากชีวิตก็กินไปซะเลยดีกว่า 🙂 จะมีบางปีที่หยุดกินบ้าง ก็ช่วงอยู่มหา’ลัยนี่หล่ะ เพราะต้องไปออกค่ายช่วงนั้นพอดี ถ้ากินคงลำบากแย่เลย ลำบากทั้งเราลำบากทั้งสต๊าฟ อีกอย่างเราเป็นพ่อครัวด้วย กินเจแล้วต้องมาผัดชอมันก็แปร่งๆอยู่เนอะ.. ก็เลยไม่กินดีกว่า สบายใจ เวลาไปนอนกับชาวบ้านต้องกินข้าวกับเค้าจะได้ไม่ต้องลำบากใจ และไม่ต้องเสียน้ำใจกันด้วย ^^
จบเรื่องเจ ชะแว๊บบ.. ขอเปลี่ยนมาเป็นเรื่องแว่นหน่อยดีกว่า.. หลังจากที่เราบ่นเช้าบ่นเย็นเรื่องสุขภาพทางสายตามาตั้งนาน.. ตาล้าเร็วมากไม่เกินเที่ยงก็ปวดมากแล้ว.. บางทีทำงานอยู่ตาก็โฟกัสไม่ได้เฉยเลย สุดท้ายก็จบด้วยอาการปวดหัวจี๊ด โคตรจะทรมาน ทำงานได้ไม่เต็มที่.. เมื่อวานก็เลยตัดสินใจไปตัดแว่นที่ร้านประจำครอบครัวเรา ร้าน St.Peter สยามเซ็นเตอร์ชั้น 3 วัดไปวัดมา สรุปผลเหมือนกับตอนที่ตรวจร่างกายของบริษัทเลย.. สรุปว่า สายตาลด!! นั่นล่ะ สายตาเราสั้นลดลง ได้ยินก็งงๆว่ามันจะลดได้อย่างไร เป็นเพราะอายุที่มากขึ้นหรือเปล่าไม่แน่ใจ หรือเป็นเพราะกรรมพันธุ์ เพราะว่าพี่สาวเราตอนแรกก็สั้น อยู่ดีๆสายตาก็ลด ทำไปทำมาก็เลิกใส่แว่นซะงั้น เพราะสายตากลับมาปกติแล้ว.. ครั้งนี้ตั้งใจไปซื้อในร้านยกชุดเลย ไม่อยากไปซื้อกรอบแว่นจากข้างนอกแล้ว กลัวจะซ้ำรอยเดิม ครั้งที่แล้วไปใส่เลนส์ พอดีใส่แล้วมันบีบหัวก็เลยให้ปรับให้ พอดัดปุ๊บขาก็หักต่อหน้าต่อตา.. ก็เลยมีเรื่องไปหนึ่งยก.. สุดท้ายก็ซ่อมด้วยการดามเหล็ก.. เราก็โอเคแหละ.. ครั้งนี้ก็เลยซื้อของในร้านดีกว่ามีปัญหาอะไรจะได้เคลมได้ มีบริการหลังการขายด้วย เราก็เลือกกรอบไม่แพงมากหรอก เพราะใช้สมบุกสมบันซื้อแพงๆมาก็เสียดายของ.. ตอนเลือกมีอันนึงเป็นของ Levis กรอบครึ่งสีดำ ขาเป็นโลหะอะไรสักอย่างสีดำประกบกับพลาสติกใสลากเส้นไกด์ด้วยสีเหลืองอ่อนยาวไปถึงช่วงกลางๆแล้วตัดด้วยสีแดงตรงปลายขา โคตรสวยเลย.. แต่ราคา 3,500฿ พูดตรงๆเลยนะว่ามันไม่แพงมากหรอก แต่เราก็ไม่อยากทุ่มทุนสร้างขนาดนั้น เสียดายตังค์หว่ะ.. ก็เลยหันมาดูของถูกๆ ก็คล้ายๆแบบเดิมเลยยี่ห้อ idx ไม่เคยได้ยินแต่งานก็โอเคอยู่.. ราคา 2,200฿ ลด 25% เหลือ 1,650฿ ต่อไปต่อมาเหลือ 1,500฿ รวมกับค่าเลนส์มัลติโค้ดอีก 1,200฿ สิริรวมแล้วก็ 2,700฿ ไม่แพงเลยเนาะ 🙂 เอาไว้มีตังค์ มีสภาพคล่องมากกว่านี้จะมาสอยนะจ๊ะ น้อง Levis
ยังไม่จบครับ วันนี้มายาววว.. หลังจากวั
นนี้ไปรับแว่นใหม่มาก็เห่อใหญ่.. ใส่แล้วไม่ปวดตาจริงๆด้วย.. แต่ยังมึนๆเล็กน้อย เพราะปรับ power ลงมาข้างละ 1 step ต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักหน่อย.. เดินทอดอารมณ์แถวสยาม จะไปจ่ายตังค์ทรูมูฟแต่ก็ไม่ได้จ่ายเพราะเครื่องจุ๊งทั้งกรุง.. เดินอยู่ก็เหลือบไปเห็นโรงหนัง scala ฉายเรื่อง the fall อยู่ เป็นหนังรางวัลล่ะ เคยได้มีโอกาสดูหนังตัวอย่างเรื่องนี้แล้วชอบภาพมาก ดูยิ่งใหญ่และแปลกๆดี ก็เลยตีตั๋วเข้าไปดูอย่างไม่ต้องสงสัย.. ผู้กำกับเป็นคนเดียวกับเรื่อง the cell ล่ะ (ไม่เคยดูหรอก อ่านมาอีกที) เป็นผู้กำกับที่ใช้ทุนตัวเองในการสร้างหนังทั้งหมด.. จะได้ไม่ต้องโดนแทรกแซงไอเดียจากพวกนายทุนทั้งหลาย เรื่องก็เลยออกมาได้แนวๆเยี่ยงนี้แล.. เรื่องนี้ดูได้เรื่อยๆครับ สนุกดี ดูเรื่อยก็ยิ้มไปเรื่อย หัวเราะไปเรื่อย.. ไอเดียแปลกดี ภาพที่ออกมาก็สวยมีเสน่ห์.. ถือว่าเป็นหนังรางวัลที่ดูรู้เรื่องเชียวละครับ.. เรื่องนี้ฉายจำกัดโรงนะครับ ใครสนใจก็ไปดูได้ที่ scala และ house คร้าบบบ ก็เอามาฝากแต่เพียงเท่านี้… สวัสดีครับ