เมื่อวานอารมณ์ครึ้มๆ ปวดหัว เพลีย.. ตอนเย็นก็เลยไปบริจาคเลือด เนื่องจากครบ 3 เดือนพอดีเป๊ะ.. และบังเอิญคืนก่อนหน้านอนเกินพิกัดไป 8 ชมเต็มๆ.. ทุกอย่างดูประจวบเหมาะก็เลยดำเนินเดินไปยังสภากาชาดไทย.. เดินเข้าไปก็ตกใจเล็กน้อย ทำไมคนเยอะจังเลย ก็เลยรีบแจ้นไปกดบัตรคิวก่อนแล้วค่อยไปกรอกใบ.. รอคิวประมาณ 25 คิว.. จะว่าไปแล้วทุกครั้งที่เรามาคนก็จะเยอะตลอดล่ะ.. ก่อนที่มาบริจาคที่สภากาชาดไทย ก็นึกภาพไว้ว่าคนคงน้อยแบบว่าเดินเข้าไปแล้วผีหลอก ประมาณว่าพยาบาลถือเข็มรอ ‘ชั้นนั่งรอสูบเลือดพวกแกอยู่ ฟื๊ดฟ๊าดดดๆ ยื่นแขนมาเร้วว.. ช้านจะเจาะ!! เลือดดดดดด..ดด’ (ออกแนวโรคจิตนิดนึง) แต่พอเดินเข้าไปจริงๆแล้ว เหมือนฝันร้ายย.. คนรอคิวกันเต็มเลย.. ที่นั่งหมดเลยต้องยืนกัน TT ภาพที่คิดไว้ก็หายไปบัดดล ความคิดใหม่ก็เข้ามา ‘พวกมรึงจาใจบุญอารายกันขนาดเน้… พร้อมใจกันใจบุญด้วยน้า.. ช้านกะลังรีบ.. ขอช้านก่อนได้ไหม หึๆ ฉานอยากให้พยาบาลกระซวกเส้นเลือดดำแล้ว.. ฟื้ดฟาดดด..’ (โรคจิตไม่แพ้กัน) ก็นั่งรอคิวต่อปายย..
คิดดูดีๆนี่ คนไทยก็ใจบุญเหมือนกันเนอะ.. ไอ่ที่เขียนมาข้างบนนั้นก็พูดเกินจริงขำๆไป.. แต่ใจจริงคือ.. เห็นคนมาบริจาคเยอะๆแล้วก็รู้สึกดี.. เห็นแล้วรู้สึกอิ่มบุญ.. ตอนเดินเข้าไปเหมือนมีก้อนพลังงานอะไรสักอย่าง ที่เดินเข้าไปแล้วทำให้รู้สึกดี ผ่อนคลาย และรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ในสถานที่นั้น.. ตอนนี้เราก็พยายามจะบริจาคให้เป็นนิจ.. ตราบเท่าที่ร่างกายยังสามารถบริจาคได้.. รอบต่อไปก็ 14 มิ.ย. ใครสนใจร่วมทริปก็เชิญได้นะครับ..
พอดีครั้งนี้บริจาคครั้งที่ 8 พอดี.. เค้าก็เลยมีใบประกาศพร้อมเข็มให้ไว้เพื่อประดับบารมี.. ก็รับมาแบบงงๆ.. ก็ดีเนอะ แต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร.. เพราะความดีมันอยู่ในใจ ไม่ต้องการตัวชี้วัดเท่าไร.. (แต่ใครจะรู้ล่ะเนอะ.. ไม่งั้นเด๋วนี้ทำไมทุกอย่างต้องพยายามสร้างตัวชี้วัดกันจัง)
ps. ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ษ. กาชาดเค้าขยายเวลาปิดของวันอังคารไปเป็น 19.30 เหมือนกันพฤหัสแล้วนะครับ.. เพื่อสนอง Demand ที่มากมายเหลือเกิน..
//แก้ไขเป็น เส้นเลือดดำ เนื่องด้วยความเบลอขณะเขียน ขอบคุณน้องต้นสำหรับ textproof – ผู้เขียน
แค่อ่านก็จะเป็นลมแล้ว กล้าบริจาคกันได้ไงเนี่ย ฮือๆ