วันนี้ไปดูรักแห่งสยามรอบที่สองมา.. มันยิ่งกว่าเดิมอีกว่ะ.. มองเห็นอะไรมากขึ้นกว่าเดิมมากเลย.. จนถึงตอนนี้มันจุกมากเลยหว่ะ.. ตอนนี้เป็นกันหลายคนมาก.. หนังจบแต่อารมณ์ไม่จบ ไม่รู้ว่ามันจะติดอยู่ในหัวเราไปอีกนานเท่าไร่.. วันศุกร์ก็ไม่มีสมาธิเลย.. ทำงานไม่ได้เลย.. ในหัวก็วนเวียนคิดตลอดเวลา..
รอบสองนี้.. ประเด็นครอบครัวทำเราน้ำตาไหลตั้งแต่เริ่มเรื่องเลย.. มันโดนตัวเรามากเลย.. ช่วงนี้อารมณ์เรา down อยู่แล้วด้วย.. จิตตก อ่อนแอ เหนื่อยกับหลายๆสิ่ง แล้วยิ่งมาดูหนังเรื่องนี้ประเด็นนี้.. ร้องไห้จนหมดน้ำตา.. หมดน้ำตาจิงๆนะ.. ฆ่ากรูให้ตายซะดีกว่า.. ตอนนี้รู้สึกจุกมากๆ ไม่รู้เป็นอะไร มันสะเทือนใจมาก.. เจออะไรสะกิดนิดหน่อยไม่ได้เลย.. น้ำตาไหลมาทันที.. เฮ้อ.. ชีวิตมันก็ต้องสักช่วงที่เราอ่อนแอบ้างใช่มั้ย..
หายไวๆละกัน.. (ให้กำลังใจตัวเอง)
ps. ขอฝากเพลงนี้ให้กับทุกคนที่กำลังทุกข์กับความรักนะครับ..
คืืนอันเป็นนิรันดร์
เหมือนว่าเราจะมอง ไม่เห็นหนทางใด
ตกอยู่ในความมืดบอด ตกอยู่ในห้วงใจที่อ่อนไหว
เหมือนจะเป็นกลางคืนอันยาวนาน เมื่อฟ้าไม่มีแสงใด
มองไปรอบกาย หัวใจก็พลันหวาดกลัว
ว่าเหตุใดคืนที่ยาวนาน ไม่ผ่านไปเสียที่
จากนี้จะมีหนทางอื่นอีกไหม
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีตะวันจะฉายในวันต่อไป
แต่ไม่รู้ต้องรอเมื่อไหร่ หรือใจเราคงจะอยู่กับคืนอันเป็นนิรันดร์
ว่าเหตุใดคืนที่ยาวนาน ไม่ผ่านไปเสียที่
จากนี้จะมีหนทางอื่นอีกไหม
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีตะวันจะฉายในวันต่อไป
เมื่อเรามีเช้าวันใหม่ หวังใจว่าจะมีหนทาง
เมื่อทุกข์ในวันเมื่อวานคืนกลับมาหาใจอันอ่อนแอ
เหตุที่ใจแพ้ เพราะเราต่างหากที่แพ้ใจ
ความทุกข์จึงเป็นกลางคืนอันยาวนาน แต่แล้วมันจะผ่านไป
ตราบใดเวลายังหมุนผ่าน ความทุกข์จะผ่านเพราะไม่มีคืนใดเป็นนิรันดร์
วันคืนต้องผ่าน นั่นคือเวลาอันเป็นนิรันดร์
แห่งสยามด้วยคน
ความรักเมื่อถึงวันมันจะมาเอง
เมื่อใดเริ่มมีความทุกข์ นั่นมันก็เริ่มไม่ใช่ความรักแล้วหละ ให้ลองวางทุกอย่างทิ้งไว้แล้วก้าวถอยหลังมา แล้วเจ้าจะพบความเป็นจริง
สุดท้าย จำไว้ว่า ยังมีคนอื่นแย่กว่าเราตั้งเยอะ… เยอะมาก