19 Dec 06 : Creativity #6

    วันนี้มีวิทยากรมาบรรยายให้ฟังเกี่ยวกับการเพิ่มพลังชีวิต พี่เค้ามารออยู่ในห้องตั้งแต่ 12.45 น. เราขึ้นไปในห้องก็ตกใจว่าใครนั่งอยู่ ก็คุยเล่นๆกับพี่เค้าสนุกดี

    การบรรยายเริ่มจากการเล่านิทาน มีชาย 3 คนพักอยู่บนชั้นที่ 60 ของโรงแรมแห่งหนึ่ง ปรากฏว่าวันหนึ่งไฟดับ ลิฟท์เสีย ต้องเดินขึ้นไป โดยทั้งสามคนได้ตกลงว่า จะผลัดกันเล่าเรื่องตลกขำขันคลายเครียดระหว่างการเดินขึ้นไปโดยผลัดกันคนละ 20 ชั้น ทุกคนเดินขึ้นบันไดไปแล้วก็ผลัดกันเล่าไปเรื่อยๆจนถึงคนสุดท้าย เล่าไปจนถึงชั้น 59 แล้วบอกกับเพื่อนๆว่า "เรามีเรื่องเศร้าที่สุดในชีวิตจะบอกล่ะเพื่อนๆ…. คือ… เรา..เรา…ลืมเอากุญแจขึ้นมาล่ะ…" นั่นล่ะ.. จะเห็นได้ว่าทั้งสามคนนั้นผิดพลาดแต่ก็ยังมีโอกาสที่จะกลับไปแก้ไขได้ใหม่ แต่ชีวิตของเรานี่สิ หากเปรียบบันไดเป็นอายุ เราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้แล้วนะ ดังนั้นจะทำอะไรก็ควรคิดวางแผนให้ดี และรีบทำก่อนที่มันจะสายไป..

    อีกเรื่องที่พี่เล่าให้ฟังเกี่ยวกับ Professor คนหนึ่งนั่งเรือไปกับเด็กคนหนึ่งซึ่งเป็นคนพาย ระหว่างทางเห็นต้นไม้เยอะแยะ ก็เลยถามเด็กว่า "เธอรู้เกี่ยวกับพฤษศาสตร์มากแค่ไหน" เด็กได้ยินคำถามก็งง แล้วบอกกลับไปว่า "ไม่ทราบครับ"
prof.
ก็เลยบอกว่า "นี่..เธอไม่รู้ก็เท่ากับชีวิตเธอหายไป 20% แล้วรู้มั้ย" พายไปเรื่อยๆเห็นภูเขาก็เลยถามเด็กว่า "เธอรู้เกี่ยวกับภูมิศาสตร์มั้ย" เด็กก็งงเหมือนเดิมแล้วตอบไปว่า "ไม่ทราบครับ"
prof.
บอกอีกเช่นเคยว่า "นี่..เธอไม่รู้ก็เท่ากับชีวิตเธอหายไปอีก 20% แล้วรู้มั้ย" Prof. ก็ถามไปเรื่อยๆแต่เด็กก็ตอบว่าไม่รู้ตลอดเวลา จนกระทั่งสักพักมีพายุเข้ามาเรือโคลงเคลงจนคว่ำในที่สุด เด็กก็ถาม Prof. ว่า "Prof. ว่ายน้ำเป็นมั้ยครับ"
Prof. ตอบว่า "ไม่เป็น!!" เด็กก็เลยตอบไปว่า "Prof ว่ายน้ำไม่เป็น…ก็เท่ากับว่าชีวิตของ Prof. หายไป 100% แล้วล่ะครับ"… ชอบ..สะใจดี.. ประมาณว่าเด็กชาวไรชาวสวนเค้ารู้เรื่องพวกนี้ดีอยู่แล้วล่ะแต่ดันไปใช้คำหรูหรา ซึ่งเค้าก็ไม่รู้หรอก ลองเปลี่ยนจาก พฤษศาสตร์ เป็น ต้นไม้พืชพรรณ เด็กก็คงจะพอรู้เข้าใจได้บ้าง.. ประเด็นที่สำคัญมันก็คล้ายสุภาษิตว่า ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด.. เรารู้อะไรมากมายแต่มันอาจไม่มีประโยชน์เลยบางสถานการณ์…

    พี่เค้าเน้นเกี่ยวกับการวางแผนชีวิตในอนาคตมาก ก็คือ Goal ที่เคยเขียนหน่ะแหล่ะ เมื่อเรามีแผนชีวิตแล้ว เราก็จะมีเป้าหมายในการดำรงชีวิต ไม่ใช่ใช้ชีวิตไปวันๆ แบบไร้จุดหมาย

    และที่เน้นอีกอย่างคือ การมองบวก ให้มองทุกอย่างเป็นบวกให้หมด หากเราพลาดพลั้งสิ่งใดไป แทนที่จะนั่งโทษ หรือนั่งเสียดายกับสิ่งนั้น ก็ให้มองว่ามันเป็นบทเรียนสอนเราให้สามารถก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง

 

Quote    

"Master your mind Design your Destiny"

"Do whatever it takes" ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็ต้องทำมันให้ได้..

"When you can’t, you must. When you must, you can"

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *