ไปเขาช้างเผือกกับบรรดาเพื่อนๆที่หัวลำโพงและสามย่านรวมทั้งสิ้น 8 คน (ไปจริงแค่ 7 คน อีกคนซับเลือดอยู่บ้าน) แพลนทริปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซื้อทัวร์เหมารถตู้ไปกับ Double Enjoy ตกคนละ 2600 บาท แพงกว่าไปเองอยู่หน่อยแต่คิดว่าซื้อทัวร์น่าจะเหมาะสมที่สุด ณ เวลานั้น และหลังจากกลับมาได้คุยกับสต๊าฟก็รู้สึกว่าคิดถูกล่ะที่ซื้อทัวร์มาเพราะเตรียมตัวแต่ละอย่างวุ่นวายฉิบหายเลย
คร่าวๆ คือ
- ต้องติดต่ออุทยานเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่าเพราะส่วนใหญ่ทัวร์จะเหมาไปซะเกือบหมด
- ค่าเจ้าหน้าที่ 700 บาท/กลุ่ม(10คน)
- เหมารถตู้ 2 วัน
- เตรียมอาหารไปทำเองบนเขา
- เมื่อคิดจะทำอาหารเองก็ต้องจ้างลูกหาบ คนละ 700 บาท/40กิโล/ทริป
- ถ้าอยู่บนเขาแล้วเตรียมน้ำไปไม่พอให้ลูกหาบไปกรอกน้ำจากตาน้ำไปได้ 200บาท/5ลิตร
- ค่ากินอยู่ระหว่างทาง
ซึ่งถ้าคิดค่าจัดการรวมๆ ผมก็ว่าเหมาะสมกับราคา 2600 บาทอยู่นะ ไม่งั้นก็จะเป็นไปตามที่สต๊าฟบอกมานั่นคือ.. ถ้ามาเองไอ่คนที่จะตายเอาก็คนจัดการนี่ล่ะ ><
ทริปนี้ก็เริ่มต้นขึ้นแบบชิวๆ ด้วยวัตถุประสงค์หลักคือ บุกป่าเพื่อพิชิตยอดเขาช้างเผือก
ออกเดินทาง 4 ทุ่มวันศุกร์ กลับถึง 4 ทุ่มวันอาทิตย์ ทริปนี้เฉพาะทัวร์เรามีรถตู้ไปกันทั้งหมด 6 คัน เยอะมากกก เพราะเป็นสัปดาห์สุดท้ายก่อนอุทยานจะปิดฤดูการท่องเที่ยว รวมๆกันแล้วไปอยู่บนเขาสักประมาณร้อยกว่าคนจากลิมิตของอุทยานที่ 80 คนฮะ เดินทางถึงบ้านอิต่องตั้งแต่ ตี 5 จัดการเตรียมตัวกินข้าวเสร็จก็พร้อมเดินทางตอน 9 โมง เอ๊า ลุย!!
- อุทยานปีหนึ่งเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว 2 ช่วง
- May-Jun ช่วงหน้าฝนก็จะได้หญ้าเขียวชุ่มฉ่ำพร้อมทากมากมาย
- Oct-Feb ช่วงต้นฤดูกาลก็จะได้หญ้าเขียวชะอุ่มพร้อมหมอก และทากประปราย ช่วงท้ายๆก็จะได้หญ้าสีเหลืองทอง สะท้อนแสงแดดยามเย็นแล้วจะสวยงามมากกกกกกก
- เขาช้างเผือกเป็นสันเขาที่แตกกิ่งออกมาจากเทือกเขาตะนาวศรีที่ทอดตัวกั้นพรมแดนไทยพม่า อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
- เริ่มต้นปีนเขาจากบ้านอีต่อง ต.ปิล็อก จ.กาญจนบุรี ระยะทางถึงยอดเขาประมาณ 8.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางขึ้นไปลานกางเต้นท์ประมาณ 4 ชม ลงมา 2.30 ชม. จากลานกางเต้นท์ไปยอดเขาอีกประมาณ 1 ชมกว่าๆ
- เส้นทางจะเป็นลักษณะเดินข้ามเขาเป็นลูกๆ ก็ต้องเดินขึ้นๆลงๆ ไปเรื่อยๆ ทางเดินช่วงปลายๆจะต้องเดินตามสันเขา ทางแคบที่สุดก็อาจจะแค่พอให้สองเท้ายืนอยู่ได้แค่นั้น ซ้ายเหว ขวาเหว ดั้งนั้นควรออกกำลังกายและเตรียมใจมากันก่อนนะฮะ
- ต้นไม้ก็ไล่มาตั้งแต่เบญจพรรณ ขึ้นไปหน่อยก็เป็นป่าไผ่ ส่วนบริเวณยอดเขาก็จะเป็นหญ้าคา และด้วยรูปทรงของภูเขา ถ่ายรูปมาแล้วสวยงามมากกกก
- ลานกางเต้นท์บนเขาช้างเผือก ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ ทุกอย่างซักแห้ง เตรียมทิชชู่เปียกไปชำระล้างร่างกายด้วย ส่วนห้องน้ำก็ตามมีตามเกิดเป็นส้วมหลุม ถ้าไม่ได้ปวดหนักจริงๆก็ไปจัดตามพุ่มไม้น่าจะอภิรมณ์กว่าเยอะ ส่วนผมจัดไปเรียบร้อยฮะ ผ่านห้องน้ำเมืองจีนมาได้แล้ว ที่ใดในโลกก็คงไม่เป็นปัญหา 🙂
ไปเที่ยวครั้งนี้ผมเอา GPS Tracking ติดตัวไปด้วย วัตถุประสงค์หลักเพื่อเก็บข้อมูลการออกกำลังกายของตัวเองที่เพิ่งได้เริ่มอย่างจริงจังเมื่อต้นปีนี้ และเพื่อเก็บข้อมูลเส้นทางการเดินป่าสำหรับคนที่สนใจจะเอาข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้ เนื่องจากไม่มีที่ชาร์จแบต ก็เลยเก็บข้อมูลมาได้แค่ขาไปขาเดียว แต่ก็คงพอที่จะเอามาใช้ประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อยครับ 🙂
เส้นทางแบ่งออกเป็น 2 ช่วงดังนี้
1. [เขาช้างเผือก] บ้านอีต่อง -> ลานกางเต้นท์
หลังจากเดินทางถึงลานกางเต้นท์ก็มีเวลาให้นอนพักผ่อนสักประมาณ 2 ชม แล้วก็เดินลุยไปยอดเขากันต่อช่วงประมาณ 4 โมงเย็น
2. [เขาช้างเผือก] ลานกางเต้นท์ -> ยอดเขาช้างเผือก
ทริปนี้โดยรวมประทับใจมากก ทัวร์ดี สต๊าฟโอเค ชิวๆ ปล่อยๆ ไม่จุ้นจ้าน เดอะแกงค์ก็หนุกหนาน ลุยๆไม่เรื่องมาก เดินเยอะเดินเหนื่อยแต่สนุกเฮฮา ช่วงต้นๆเดินชิวๆรู้สึกโหดน้อยกว่าที่คิดไว้ แต่พอถึงช่วงขึ้นยอดเขานี่คนละเรื่องกันเลยโหดมันส์ฮาสะใจดีแท้ ใครที่กลัวความสูงก็อาจต้องคิดเยอะหน่อยนะฮะ เพราะมันเสียวซ่านมากจริงๆ!
ครั้งหนึ่งในชีวิตครับ ได้เดินป่าชื่นชมธรรมชาติท่ามกลางบรรยากาศมิดเดิ้ลเอิร์ธ ไม่ต้องไปไหนไกล หาได้ในไทยใกล้ๆตัวคุณนี่ล่ะครับ
เมืองไทยยังมีที่เที่ยวเจ๋งๆให้คุณได้สัมผัสอีกเยอะเลยครับ
ธีรเดช ณ เขาช้างเผือก