26 Nov 10 : Japan Trip : Day 8 (Osaka – Obara – Nagoya – Tokyo Night)

ตื่นมาแต่เช้าเช่นเคย ล้างหน้าแปรงฟัน ลงมาเช็คเอาท์พร้อมโบกมือร่ำลา Osaka เพื่อจะเดินทางต่อไปยัง highlight ของทริปนี้ นั่นคือ Obara แห่งเมือง Toyotashi สถานที่ Unseen in Japan ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ยังไม่รู้จัก รวมถึงการท่องเที่ยวญี่ปุ่นในประเทศไทยด้วย – -“

หลายคนอาจสงสัยว่ามัน Unseen ยังไง มันคือสถานที่ที่มีต้นซากุระพันธุ์พิเศษที่จะบานปีละ 2 หน คือช่วง Hanami และอีกครั้งคือช่วง Koyo ใบไม้เปลี่ยนสีนั่นเอง เมื่อคุณได้ขึ้นไปแล้วคุณจะมองเห็นดอกซากุระบานพร้อมกับใบไม้เปลี่ยนสี หาดูที่ไหนไม่ได้แล้ว

สิ่งที่กลัวมากที่สุดในการเดินทางไปครั้งนี้คือ กรูจะเอาชีวิตรอดไปถึง Obara ได้หรือไม่ เพราะเท่าที่ทราบมาคือยิ่งระยะทางไกลจากแหล่งท่องเที่ยวเท่าไร ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษก็จะลดลงไปด้วยเท่านั้น และพวกป้ายบอกทางต่างๆที่เป็นภาษาอังกฤษก็จะลดลงๆไปเรื่อยๆด้วยเช่นกัน

 

เริ่มออกเดินทางจาก Osaka ไปยัง Toyatashi ตามเส้นทางข้างล่าง นี่เฉพาะรถไฟนะ เห็นแค่นี้ก็แทบจะลมจับแล้ว แต่ไปถึง Toyotashi แล้วก็ต้องนั่งรถบัสไปต่ออีก โอ้ววว ทรหดจริงๆ

แค่ตอนที่นั่ง Shinkansen ไป Nagoya ก็แทบจะกรี๊ดไปหนึ่งรอบ เมื่อทั้ง 2 คนที่เหนื่อยอ่อนจากการเดินทางไป Hiroshima เมื่อวาน พร้อมใจกันหลับโดยที่ไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุกไว้หรือว่าตั้งแต่หลับลึกจนไม่รู้ตัวก็ไม่รู้  ใครที่เคยนั่ง Shinkansen ก็จะทราบดีว่าก่อนถึงสถานีก็จะมีดนตรีขับกล่อมเบาๆ เพื่อให้ตื่น แต่หารู้ไม่ว่าดนตรีเหล่านั้นยิ่งจะขับกล่อมให้เราหลับดำดุิ่งมากยิ่งขึ้นอีก..  จนกระทั่งมีคนเดินผ่านแว๊บหัวไปมา วุ่นวายไปหมด ก็ทำให้เรารู้สึกตัวและมองไปรอบๆ.. เอ๊ะ รถไฟจอดอยู่ แล้วนี่มันที่ไหนว่ะ!! พยายามมองไปมองมา แต่ก็ไม่เห็น สักพักเพื่อนเราตั้งสติได้ ก็สะกิดแล้วก็บอกว่า ลงเร็ว!! ไอ่เราก็ตาลีตาเหลือกวิ่งแบกของกันจ้าละหวั่น และเมื่อวิ่งไปถึงบริเวณประตู่ สัญญาณปิดประตูก็ดังขึ้น และทันทีที่ขาข้างสุดท้ายพ้นประตู.. ประตูก็ค่อยเลื่อนมาปิดดังปังทันที.. ณ เวลานั้น ตื่นเต้นมาก ก็คิดกันอยู่ว่าถ้าเมื่อกี้ออกมาไม่ทัน ใจฉันคงล่มสลายเป็นแน่แท้ และคงจะรู้สึกเฟวกับทริปนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

มาถึง Nagoya ก็นั่งรถไฟไปอีก 3 ต่อก็ไปถึง Toyotashi จากนั้น ก็วิ่งไปหา Tourist Center เลยทันที และนี่คือสิ่งที่พิสูจน์คำกล่าวข้างต้นได้อย่างดี นั่นคือ ที่ Tourist Center ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้เลย โอ้วมายก็อดดดด.. แต่จิตวิญญาณอาชีพบริการของคนญี่ปุ่นก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวัง เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเต็มที่เลย พยายามสื่อสารกับเราเต็มที่ทั้งภาษามือ ภาษากาย สีหน้าและท่าทาง แต่ที่ประทับใจเด็กภาคคอมพ์อย่างเราๆมากที่สุดก็คือ เจ้าหน้าที่งัดไม้เด็ดด้วยการเข้า Yahoo Translate แล้วแปลภาษาญี่ปุ่น เป็นอังกฤษให้เราอ่าน.. อ่านจบก็หัวเราะกันยกใหญ่ น่ารักดีกว่า คนญี่ปุ่น ประทับใจ ^^

หลังจากเสร็จจาก Tourist Center ก็ไปนั่งจิบกาแฟโซ้ยเบอร์เกอร์รอเวลารถบัสออกที่ Lotteria เสียหน่อย กินเสร็จก็ฝากของใน Locker แล้วรอเวลารถบัสมา

จากที่สังเกตภายในเมือง Toyotashi แห่งนี้ มันมีแต่ Toyota จริงๆแฮะ แบบว่ามีโชว์รูมแยกเป็นรุ่นๆเลย โชว์รูม Camry ผ่านไปอีกนิดก็เป็นโชว์รูม Altis ไปอีกหน่อยก็เป็น Lexus แล้วรถส่วนใหญ่ที่ขับในเมืองนี้ก็คือ Toyota เราเข้าใจแล้วล่ะ ว่า Toyota มันเกิดมาจากเมืองไหน 555

นั่งไปเรื่อยหลับเรื่อยตื่นมาดูทางเรื่อยๆ อยากจะบอกว่ารถขับช้ามากกกก 60Km/hr ได้มั้ง เมืองนี้มีแต่คนแก่เหอะ ถ้าดูจริงๆระยะทางไม่ไกลมากแต่ใช้เวลาตั้ง 1 ชม.. โอ้ววว..

ไปถึงแล้วก็จะได้ยลภาพแบบนี้ละเอออออ..

ดูจุดแรกเสร็จก็นั่งรถมาที่อีกจุดหนึ่ง เป็นจุดที่เค้าจัดเทศกาลพอดี เราก็เปรมละ ซัดของกินไปซะเรียบ อร่อยมากกก อิ่มมากกก..  ระหว่างที่เราเดินไปซื้อทาโกะยากิ สักพักคนขายก็พูดภาษาญี่ปุ่นด้วยสีหน้าประหลาดใจใส่หน้าเรา เหมือนจะถามอะไรสักอย่าง เราก็ไม่รู้เรื่อง ก็ถามอยู่อีก 2-3 ครั้ง สักพักคนอื่นๆที่เดินมาก็พูดอะไรกับคนขายไม่รู้แล้วก็ถามด้วยคำถามเดิมแต่เป็นภาษาญี่ปุ่นและสีหน้าประหลาดใจเหมือนเดิม เราก็ไม่รู้แล้วก็จ่ายตังค์ออกมากินอย่างเอร็ดอร่อย จากการจับสีหน้าแล้วโทนเสียงก็เดาๆได้ว่า..  อ้าว หนูๆเป็นนักท่องเที่ยวเหรอ ไม่ได้เป็นคนญี่ปุ่นหรอกเหรอ มาจากที่ไหน แล้วมาที่นี่ได้ไง รู้จักด้วยเหรอ อะไรประมาณนี้ เพราะน้อยคนนักที่จะรู้จักที่นี่ และรถที่เรานั่งมาก็มีแต่คนญี่ปุ่นทั้งนั้นเลย แบบว่าคนแก่ๆนัดกันมาเที่ยวอ่ะ ไอ่ที่เราแปลมาอย่างงี้เพราะมันมีร้านอื่นด้วยที่ถามอะไรแบบนี้ แต่เค้าพอพูดภาษาอังกฤษ ก็เลยคิดว่าเราคงเป็นคนแปลกในที่นั้นแหละ 55

หลักจากกินและถ่ายรูปจนหนำแล้วก็รีบลงไปรอรถเพื่อกลับไปยัง Toyotashi

จับรถไฟกลับไปทางเดิม แล้วก็นั่ง Shinkansen กลับโตเกียวแล..

 

กลับไปถึง Tokyo ด้วยความเสี้ยนอยากแช่ออนเซ็นอีก ก็เลยบุกไปยัง Odaiba อีกรอบ ก็ได้แช่สมใจสบายอุรา การแช่ออนเซ็นในอากาศหนาวๆเช่นนี้มันมีความสุขจริงๆเลย แช่จนลืมเวลารถไฟ ออกมาก็เลยวิ่งหน้าตั้งเพื่อจับรถไฟเที่ยวสุดท้ายกลับบ้านพัก วู้วววว สุโค่ยยยยย

 

เรื่องราวการเดินทางและที่มาที่ไปโดยละเอียด รวมถึงรูปสวยๆงามๆ ไปติดตามจาก blog ของเพื่อนกระผมได้เลยครับ  http://roparat.com/2010/12/obara/

 

 

ค่าใช้จ่าย

JPY

Hotel Coms Osaka (15000/2)

7,500

Nakatsu -> Shin Osaka

200

Tsurumai -> Toyota

710

Locker (300/2)

150

Bus from Toyota to Obara1

600

Obara1 to Obara2

200

Obara2 to Toyota

600

Toyotashi -> Nagoya

740

Locker at Odaiba Onsenji (200/2)

100

Lotteria at Toyota

480

Odaiba Onsenji

1,480

ค่าเดินทาง (JR,Metro, เติมเงิน suica)

1,370

กินจิปาถะ

1,838

รวม

15,968

Tags:

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *