ถูก Tag มาประมาณ 6 คนเห็นจะได้ ตั้งใจเขียนไปแล้วรอบนึง แต่กด Save แล้วมันก็หายไปในกลีบเมฆ บังเอิญเจ๊ชบา Tag มาอีกรอบก็เอาว่ะ ลงแรงอีกสักรอบละกัน
#20FactAboutMe เห็นคนเขียนกันมาตั้งเยอะแยะ ก็ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไรนะ เพราะเขียนกันยาวมากกกก ช่วงหลังๆไม่ค่อยมีความอดทนในการอ่านอะไรยาวๆสักเท่าไร แต่พอมานั่งอ่าน blog ตัวเองย้อนหลังก็คิดว่า น่าจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้มาทบทวนชีวิตตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไร
- ชื่อ ธีรเดช แปลว่า นักปราชญ์ผู้มีอำนาจ ชื่อภาษาจีนคือ 洪益祥 ภาษาแต้จิ๋ว อ่านว่า อั้งเอี๊ยะเซี้ยง ส่วนจีนกลาง อ่านว่า หงอี้เสียง แปลว่า ศิริมงคลที่เพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก ชื่อเล่นไม่มีส่วนใหญ่เพื่อนๆก็เรียกกันว่า ธี / เดช / ดูด
- พ่อคนสงขลา แม่คนสุราษฎร์ แต่งงานกันที่นครศรีฯ ฉันเกิด รพ. นครคริสเตียน ด้วยน้ำหนักตัว 4.1 กิโล หนักมาก ขุ่นแม่อุ้มท้องซะเหนื่อยเลย เป็นลูกคนสุดท้อง ตามสูตรเมนเดล ญ 3 : ช 1
- เรียนอนุบาลพิชญรัตน์ –> ประถมวัดศรีทวี –(ย้ายมากรุงเทพฯ)–> ซ้ำอนุบาลเสสะเวช –> ประถมเสสะเวช –> ม.ต้นโพธิสาร –> ม.ปลายสวนกุหลาบฯ –> ป.ตรีจุฬาฯ เปลี่ยนโรงเรียนกันทุกช่วงชั้น ก็เลยมีคนรู้จักหลายกลุ่มมาก
- เป็นหัวหน้าห้องตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.3 (ยกเว้น ป.4) เบื่อมากกกกก เบื่อจนต้องให้แม่ไปบอกครูว่า ป.4 ไม่ขอรับตำแหน่ง ชีวิตวัยเด็กมันหายไป ต้องรับผิดชอบอะไรเยอะเกินไปตั้งแต่เด็ก ไร้ซึ่งจินตนาการ แม่งโคตร trade-off
- จดชื่อคนคุยหน้าชั้น รวบรวมงานไปส่งครู อะไรอะไรก็หัวหน้าห้อง มีครั้งหนึ่งเคยโดนให้ตามหาว่าใครตดในห้อง ด้วยการให้ทุกคนยืน แล้วให้หัวหน้าห้องเดินไล่หากลิ่น หัวหน้าห้องอย่างกรูต้องทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งงานหมา.. นึกย้อนไปมันก็ฮานะ แต่เอาจริงๆในสถานการณ์แบบนั้นแม่งไม่ขำหว่ะ
- เป็นมือระนาดเอกวงดนตรีไทยประจำโรงเรียน จริงๆอยากเรียนดนตรีสากลมากกว่าแต่มันต้องเสียค่าเรียน 500 บาทต่อเทอมมั้ง ไม่มีตังค์ก็เลยไปด้อมๆมองๆเค้าเรียนอิเลคโทนเกือบทุกวันช่วงพักเที่ยง บังเอิญห้องดนตรีไทยอยู่ติดกัน ครูคงเห็นหน้าบ่อยก็เลยเรียกเข้าไปให้ลองตีฉิ่ง ตีกรับ แล้วก็ไล่ไปเรื่อยๆจนไปถึงระนาดเอก ครูคงเห็นแววก็เลยได้ประจำวงดนตรีไทยในที่สุด
- ป.6 ใช้โควต้าบ้านใกล้เข้าสวนกุหลาบฯไม่ได้ ก็เลยไปอยู่โพธิสารฯแทน แต่ในที่สุด ม.4 ก็ได้ไปอยู่สวนกุหลาบฯด้วยโควต้าเรียนดีแทน
- พยายามจะพาตัวเองไปโอลิมปิกให้ได้ แต่แค่ สสวท ในประเทศยังไม่ผ่านรอบ 2 รู้สึกว่ากากมาก ล้มเลิกไปอ่านหนังสือเอนทรานซ์ดีกว่า
- ชอบชีวะมาก ชอบอะไรทุกอย่างที่เกี่ยวกับชีวิต อยากเรียนในสิ่งที่หมอเรียน แต่ไม่ชอบวิชาชีพและคุณภาพชีวิตหมอในไทย ก็เลยเลือกที่จะไม่สอบวิชาชีวะ จะได้ไม่ต้องลังเลตอนเลือกคณะ ตอนนั้นรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เด็ดเดี่ยวสุดล่ะ จนถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่า คิดไม่ผิดที่ตัดสินใจอย่างนั้น
- เข้ามาเรียนวิดวะจุฬาฯ บ้ากิจกรรมมาก จนเกรดเทอมแรกได้ 2.7 กรีดร้องเลยทีเดียว กลัวไม่ได้เข้าภาคคอมพ์ เทอมสองก็เลยเป็นผีเฝ้าหอกลาง อ่านบ้าบอทุกวันจนได้เข้าภาคคอมพ์ในที่สุด
- ผ่านมาสิบข้อจะเห็นได้ว่ามีแต่เรื่องเนิร์ดๆ ก็ใช่ครับ ชีวิตผมมันเนิร์ดแบบนี้แหละ มีแต่เรื่องจริงจังในชีวิต ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย ช่วงหลังๆก็ทำตัวขำๆอีซี่ๆ จะได้เข้าถึงง่ายหน่อย แต่ก็ยังมีคนบอกไม่กล้าเข้ามาคุยอยู่ดี
- ชอบออกค่าย ชอบไปลำบาก ชอบเรียนรู้ชีวิต สถานที่ไหนไม่มีคลื่นโทรศัพท์ยิ่งดี ไปออกค่ายได้พูดคุย ได้เรียนรู้ชีวิตชาวบ้าน ได้ไปทำไร่ทำนากับเค้า ได้สอนหนังสือเด็ก ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับชาวค่าย ได้หัวเราะ ได้ยิ้มแย้มกับทุกคน ชีวิตมีความสุข
- อยากไปเที่ยวรอบโลก ตอนนี้ไปได้แล้วประมาณ 8% ของทั้งโลก ยังพอมีเวลา ให้ได้ออกไปเรียนรู้ เน้นสถานที่ที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติ หรือไปตอนแก่ไม่ได้ก่อน
- เป็นคนเปิดใจ รับฟังได้ทุกสิ่ง มีอะไรขอให้พูดกันตรงๆ อย่าอ้อมค้อม พิจารณาทุกคำพูดตรงไปตรงมา ทั้งจากปากและคำเขียน จำพวกคนที่คิดอย่างพูดอย่าง มี hidden agenda ซ่อนอยู่ ขออย่าได้เจอกันเลย
- เป็นคนสมาธิสั้น ไม่นิยมสถานที่เสียงดัง ไม่นิยมใส่หูฟัง
- ก็เลยชอบทำงานตอนกลางคืน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเอง ไม่มีใครมารบกวน productivity สูงทะลุปรอท
- เป็นคนอ่านหนังสือนานๆไม่ค่อยได้ ปวดตา โดยเฉพาะในคอมพ์
- คณะวิศวฯ ทำให้รู้จักแอลกอฮอล์ ก่อนหน้านี้ anti มาก แต่หลังจากได้มาใช้ชีวิตได้ออกค่าย ได้สัมผัสชีวิตกรรมกรจริงๆ แม้มันจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อร่างกาย แต่มันก็ทำหน้าที่ทางสังคมได้เป็นอย่างดี ข้ามิได้นิยมชมชอบในรสชาดของสุรา แต่ข้านิยมชมชอบในบรรยากาศของการร่ำสุราปี1,2 เหล้า เบียร์ –> ปี3,4 เบียร์ วอดก้า –> ทำงาน วอดก้า ไวน์ –> สุดท้ายตอนนี้จบที่ ไวน์ + ค็อกเทล
- ผมเชื่อใน Second Chance ทุกคนมีสิทธิ์ผิดพลาดได้เสมอ และทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง แต่ถ้าพลาดแล้วพลาดอีกกันบ่อยๆ ผมก็มีลิมิตในการให้โอกาสเหมือนกัน โอกาสมีได้แต่ก็ไม่ได้มีให้ใช้กันสุรุ่ยสุร่าย
- เมื่อเรารู้จักกันเริ่มต้น ผมจะเต็มที่ และเปิดใจกับทุกคนเสมอ ผมจะให้คะแนนทุกคน 100 เต็ม แต่ใครจะมีคะแนนเหลืออยู่เท่าไรก็แล้วแต่เคมีที่สามารถขับเคลื่อนให้เราไปกันต่อได้ เมื่อไรที่ถึงศูนย์เราก็คงต้องจากลา
ธีรเดช กับ ความจริงที่เป็นอยู่